วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประวัติเเละประเพณีวันลอยกระทง

วันลอยกระทง
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 วันลอยกระทง


กำหนดวันลอยกระทง

          วันลอยกระทงของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับเดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดือน 12 นี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบาย และอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก มีน้ำขี้นเต็มฝั่ง ทำให้เห็นสายน้ำอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทำให้สามารถเห็นแม่น้ำที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมา เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง



 ประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง
ประเพณีลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า "พิธีจองเปรียญ" หรือ "การลอยพระประทีป" และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน

          ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า 
          ก่อนที่นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงจะคิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม ดังปรากฎในหนังสือนางนพมาศที่ว่า

          "ครั้นวันเพ็ญเดือน 12 ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่าง ๆ มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้ป็นลวดลาย..."

          เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชดำรัสที่ว่า "ตั้งแต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน" พิธีลอยกระทงจึงเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติความเป็นมาของอินเตอร์เน็ต

ประวัติความเป็นมาของอินเทอร์เน็ตในยุคแห่งสังคมข่าวสารเช่นปัจจุบัน การสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ยิ่งทวีความสำคัญมาก ขึ้นเป็นลำดับเครือข่าคอมพิวตอร์ให้แลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกันได้โดยง่าย ในปัจจุบันมี เครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงไปทั่วโลก ผู้ใช้ในซีกโลกหนึ่งสามารถติดต่อกับผู้ใช้ในซีกโลกหนึ่ง ได้อย่างรวดเร็วเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จักกันในชื่อของ"อินเทอร์เน็ต"(Internet) จัดว่าเป็น เครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในยุคของสังคมข่าวสารปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตมีขอบข่ายครอบ คลุมพื้นที่แทบทุกมุมโลกสมาชิกในอินเทอร์เน็ตสามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่จุดใด ๆ เพื่อส่งข่าวสารและข้อมูลระหว่างกันได้บริการข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีหลากรูปแบบและมีผู้นิยมใช้ ้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน จากการคาดการณ์โดยประมาณแล้วปัจจุบันมีเครือข่ายทั่วโลกที่เชื่อมเข้าเป็น อินเทอร์เน็ตราว 45,000 เครือข่าย จำนวนคอมพิวเตอร์ในทุกเครือข่ายรวมกันคาดว่ามีประมาณ 4 ล้านเครื่อง หรือหากประมาณจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกคาดว่ามีประมาณ 25 ล้านคน และ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เราจึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายมหึมาที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ที่สุด มีการขยายตัวสูงที่สุด และมีสมาชิกมากที่สุดเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่นที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตมิได้เป็นเครือข่ายที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเจาะจงหากแต่มี ประวัติความเป็นมาและมีการ พัฒนามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเกิดของเครือข่ายอาร์พาเน็ต ในปี พ.ศ.2512ก่อนที่จะก่อตัวเป็น อินเทอร์เน็ตจนกระทั่งถึงทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตมีพัฒนาการมา จากอาร์พาเน็ต ( ARPAnet ) ซึ่งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายใต้ การรับผิดชอบของ อาร์พา ( Advanced Research Projects Agency ) ในสังกัดกระทรวงกลาโห ของสหรัฐอเมริกาอาร์พาเน็ต ในขั้นต้นเป็นเพียงเครือข่ายทดลองที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนงานวิจัยด้านการทหารและ โดยเนื้อแท้แล้วอาร์พาเน็ตเป็นผลพวงมาจากการเมืองโลกในยุคสงครามเย็นระหว่างค่าย คอมมิวนิสต์และค่ายเสรีประชาธิปไตย ยุคสงครามเย็น ในทศวรรษของปีพ.ศ.2510 นับเป็นเวลาแห่งความตึงเครียดเนื่องจากภาวะ สงครามเย็นระหว่างประเทศในค่ายคอมมิวนิสต์และค่ายเสรีประชาธิปไตย สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้นำ กลุ่มเสรีประชาธิปไตยได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการทดลองเพื่อค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีด้านระบบคอมพิวเตอร์ช่วงท้ายของทศวรรษ 2510 ห้องปฏิบัติการวิจัย ในสหรัฐ ฯ และในมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆล้วนแล้วแต่มีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยในยุคนั้นติดตั้งอยู่

คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะแยกกันทำงานโดยอิสระมีเพียงบางระบบที่ตั้งอยู่ใกล้กันเท่านั้นที่สื่อสารกันทางอิเล็กทรอนิกส์แต่ก็ด้วยความเร็วต่ำ ห้องปฏิบัติการหลายแห่งได้พัฒนาระบบสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น หากแต่ยังไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้กับเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ปัญหาและ อุปสรรคสำคัญ คือคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายจะต้องอยู่ในสภาพทำงานทุกเครื่องหากเครื่องใดเครื่องหนึ่งหยุดทำงานลง การสื่อสารจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จนกว่าจะตัดเครื่องออกไปจาก เครือข่ายข้อจำกัดนี้ทำให้ระบบเครือข่ายไม่อยู่ในสภาพที่เชื่อถือได้และลำบากต่อการควบคุมดูแล โครงการอาร์พาเน็ต อาร์พาเป็นหน่วยงานย่อยของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ฯ ทำหน้าที่สนับสนุนงานวิจัยพื้นฐานทั้งด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ อาร์พาไม่ได้ทำหน้าที่วิจัยโดยตรงอีกทั้งยังไม่มีห้องทดลอง เป็นของตนเอง หากแต่กำหนดหัวข้องานวิจัยและให้ทุนแก่หน่วยงานอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนที่ทำงานวิจัยและพัฒนา อาร์พาได้จัดสรรทุนวิจัยเพื่อทดลองสร้างเครือข่ายให้คอมพิวเตอร์สามารถแลก เปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ในชื่อโครงการ"อาร์พาเน็ต" ( ARPAnet ) โดยเริ่มต้นงานวิจัยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2512 รูปแบบเครือข่ายอาร์พาเน็ตไม่ได้ต่อเชื่อมโฮสต์ ( Host ) คอมพิวเตอร์เข้าถึงกันโดย ตรง หากแต่ใช้คอมพิวเตอร์ เรียกว่าIMP ( Interface Message Processors ) ต่อเชื่อมถึงกันทางสาย โทรศัพท์เพื่อทำหน้าที่ด้านสื่อสารโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละIMP สามารถเชื่อมได้หลายโฮสต์

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

ขั้นตอนการทำชั้นวางของสวยๆ

ขั้นตอนการทำชั้นวางของสวยๆ
วันว่างๆ อยู่บ้านเฉยๆ หลายคนคงจะมีงานอดิเรกทำกัน หรือบางคนที่ไม่มีอะไรทำเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็ลองมาดูบล็อกผมกันครับ วันนี้ผมเอารูปขั้นตอนการทำชั้นวางซีดีด้วยตัวเองมาให้ชมกัน

ขั้นแรกครับ (ไม่มีรูปครับสำหรับขั้นตอนนี้) ออกจากบ้านไปหาซื้อไม้ยางแผ่นที่โฮมโปร์ ผมเอาขนาด ๓๐ ซ.ม. x ๒๐๐ ซ.ม. (ราคาหกร้อยกว่าบาท แพงไปหน่อย ใครมีไม้เก่าก็เอาไปให้ช่างแถวบ้านตัดให้ดีกว่าหรือถ้ามีเลื่อยก็เลื่อยเองเลยครับ)

แล้วให้พนักงานตัดแบ่งครึ่งตามแนวยาว และทอนออกเป็นแปดท่อน (ฟรี) แล้วซื้อเหล็กฉากสำหรับทำขาชั้นวางของ ผมเอาตัวเล็กสุด ๑๖ ตัว ตัวละ ๙ บาท แล้วก็พวกตะปูควงและฮุก (แต่ผมมีอยู่ที่บ้านแล้ว)
ไม้แผ่นที่ได้มาผมทางสีขาวแต่ปล่อยเนื้อไม้ไว้ด้านหนึ่ง ที่ไม่ทาทุกด้านก็เพราะว่าไม้พวกนี้มันขัดเสี้นมาจนเรียบรื่นแต่พอโดนความชื้นของสีพวกเสี้ยนมันจะปูดกลับขึ้นมา ผมจึงปล่อยเป็นเนื้อไม้ไว้หนึ่งด้านใช้เป็นพื้นด้านบนของชั้น 

(กองไม้ด้านขวามือไม่เกี่ยวนะครับ อันนั้นเอาไว้ทำชั้นเข้ามุมห้อง ผมเตรียมไม้ไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้ติดตั้งสักที)

อุปกรณ์ที่ใช้ก็ตามในรูปเลยครับ

ทำการยึดขากับแผ่นไม้
*การหาตำแหน่งผมเอาขอบไม้ไปชิดผนังห้องแล้ววางขาเหล็กแนบกับผนังและอีกด้านก็หาตำแหน่งรูที่พื้นไม้
ตอนที่เรานำไปติดกับผนัง ผมใช้ปรอตน้ำดูระดับ พยายามปรับให้ฟองอากาศอยู่ช่องกลาง 
วิธีนี้ดีกว่าใช้ไม้บรรทัดวันจากพื้นเพราะบางทีช่างทำพื้นไว้ไม่ได้ระดับชั้นเราก็จะเอียงตามไปด้วย
หาตำแหน่งได้แล้วก็เจาะเลยครับ ใช้ดอกสว่านสำหรับเจาปูนเจาะหินนะครับ
ใส่สกรูยึดติดกับผนัง

ทั้งหมดแปดชั้น
เอารูปไปแขวนผนังข้างๆ ซะหน่อยก็ดูดี
ตามรูป ขาเหล็กเป็นตัวกันล้มของซีดีได้
ตรงหัวตะปูเกียวผมเอาสีขาวที่เหลือมาแต้มให้มันขาวกลืนกับผนัง

ชั้นบนผมใช้เหล็กฉากแบนกันล้ม วางเหมือนที่กั้นหนังสือในห้องสมุดอ่ะครับ

เอาแมวมาวางก็น่ารัก

                                                  เสร็จแล้วครับ

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

ความหมายของงานประดิษฐ์เเละประโยชน์ของงานประดิษฐ์

ความหมายงานประดิษฐ์

ประดิษฐ์ แปลว่า คิดทำขึ้น



งานประดิษฐ์ จึงหมายถึง การนำเอาวัสดุต่างๆ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อประโยชน์ใช้สอยด้านต่างๆ เช่น เป็นของเล่น ของใช้ หรือเพื่อควมสวยงาม


ประโยชน์ของ งานประดิษฐ์


1. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์


2. มีความภูมิใจในผลงานของตน


3. มีรายได้จากผลงาน


4. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ


5. เป็นการฝึกให้รู้จักสังเกตสิ่งรอบๆ ตัว และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์


ลักษณะของงานประดิษฐ์


1. งานประดิษฐ์ทั่วไป เป็นงานที่บุคคลสร้างขึ้นมาจากความคิดของตนเองโดยอาศัยการเรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัว นำมาดัดแปลง หรือเรียนรู้จากตำรา เช่น การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ การประดิษฐ์ดอกไม้


2. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษในครอบครัวหรือในท้องถิ่น หรือทำขึ้นเพื่อใช้งานหรือเทศกาลเฉพาะอย่าง เช่น มาลัย บายศรี งานแกะสลัก


ประเภทของงานประดิษฐ์


งานประดิษฐ์ต่างๆ สามารถเลือกทำได้ตามความต้องการและประโยชน์ใช้สอย ซึ่งอาจแบ่งประเภทของงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยดังนี้


1. ประเภทใช้เป็นของเล่น เป็นของเล่นที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวทำให้ลูกหลานเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น งานปั้นดินเป็นสัตว์ สิ่งของ งานจักสานใบลานเป็นโมบาย งานพับกระดาษ


2. ประเภทของใช้ ทำขึ้นเพื่อเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การสานกระบุง ตะกร้า การทำเครื่องใช้จากดินเผา จากผ้าและเศษวัสดุ


3. ประเภทงานตกแต่ง ใช้ตกแต่งสถานที่ บ้านเรือนให้สวยงาม เช่น งานแกะสลักไม้ การทำกรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์


4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในงานเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น การทำกระทงลอย ทำพานพุ่ม มาลัย บายศรี


วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์


การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการประดิษฐ์ชิ้นงานต้องเลือกให้เหมาะสมจึงจะได้งานออกมามีคุณภาพ สวยงาม รวมทั้งต้องดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตลอดเวลา และสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้


1. ประเภทของเล่น


- วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ใบลาน ผ้า เชือก พลาสติก กระป๋อง


- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กรรไกร เข็ม ด้าย กาว มีด ตะปู ค้อน แปรงทาสี


2. ประเภทของใช้


- วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ ดิน ผ้า


- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น เลื่อย สี จักรเย็บผ้า กรรไกร เครื่องขัด เจาะ


3. ประเภทของตกแต่ง


- วัสดุที่ใช้ เช่น เปลือกหอย ผ้า กระจก กระดาษ ดินเผา


- อุปกรณ์ เช่น เลื่อย ค้อน มีด กรรไกร สี แปรงทาสี เครื่องตอก


4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี


- วัสดุที่ใช้ เช่น ใบตอง ดอกไม้สด ใบเตย ผ้า ริบบิ้น


- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น เข็มเย็บผ้า เข็มร้อยมาลัย คีม ค้น เข็มหมุด


การเลือกใช้และบำรุงรักษาอุปกรณ์ มีหลักการดังนี้


1. ควรเลือกใช้ให้ถูกประเภทของวัสดุและอุปกรณ์
2. ควรศึกษาวิธีการใช้ก่อนลงมือใช้
3. เมื่อใช้แล้วเก็บไว้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
4. ซ่อมแซมเครื่องมือที่ชำรุดให้พร้อมใช้เสมอ

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

C.Ronaldo

ประวัติของนักฟุตบอลขั้นเทพ
 (Cristiano   Ronaldo)

เกิด 5/2/1985

เมืองเกิด มาเดร่า
หมายเลขเสื้อ 7
ตำแหน่ง กองกลาง
สโมสรต้นสังกัดก่อนหน้านี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกส รุ่นอายุไม่เกิน 15ปี , 16 ปี , 17 ปี และทีมชาติชุดใหญ่

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดอส ซานโตส อเวโร่ เกิดที่ ฟันชัล ใน เมไดร่า อีสแลนด์ส เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีม เนชั่นแนล (Nacional) ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
ในวันที่ 15 สิงหาคม 2001 เขาลงสนามนัดแรกให้กับทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยวัยเพียง 16 ปี ซึ่งสปอร์ติ้ง นั้นถือเป็นทีมที่อยู่ในระดับดีทีเดียว เมื่อผลิตนักเตะที่ยอดเยี่ยมหลายๆ คนป้อนสู่ตลาดยุโรปอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, เจา ปินโต ซึ่ง โรนัลโด้ เองก็กำลังจะเจริญรอยตามรุ่นพี่ ด้วยความสามารถที่เจิดจรัสในฟุตบอลยุโรป เมื่อตกเป็นที่สนใจของทีมยักษ์ใหญ่หลายๆ ทีม
ตลอดฤดูกาล 2002/03 เขาได้แสดงความสามารถมากมายให้เห็นทั้งความแข็งแกร่ง ทักษะที่ยอดเยี่ยม และความสามารถเล่นได้ด้วยเท้าทั้ง 2 ข้าง แถมยังทำได้ดีใน ตำแหน่งปีกซ้าย/ขวา และตำแหน่งกองหน้าต่ำ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเอง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังมองหานักเตะที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระและช่วยในการทำเกมในแดนรุกร่วมกับ รุด ฟาน นิสเตลรอย เกมก่อนเปิดฤดูกาลของทีมในนัดกระชับมิตรระหว่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเกมที่ทำให้เฟอร์กี้ ได้พบในสิ่งที่เขาค้นหามาแรมปี โดยเขาได้เห็นฟอร์มและลีลาการลากเลื้อยของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และโดนใจในทันที


โรนัลโด้ สามารถทำประตูได้ทำให้มีหลายทีมสนใจอยากได้เขามาร่วมทีม และในขณะนั้นฝ่ายบริหารของทีมปีศาจแดงก็เฝ้าดูฟอร์มของเขาอยู่เช่นกัน

“หลังจากเราเล่นกับ สปอร์ติ้ง ในเกมนั้น ผู้คนให้ห้องแต่งตัวต่างก็พูดถึงเขา และในขณะที่เราเดินทางกลับอังกฤษ พวกเขาก็ขอให้ผมติดต่อเพื่อเซ็นสัญญานำนักเตะคนนี้มาร่วมทีมให้ได้” เฟอร์กี้ เปิดเผยในการแถลงข่าวเปิดตัวนักเตะใหม่

“เขาเป็นนักเตะที่สร้างความตื่นเต้นในเกมได้คนหนึ่ง และเขาก็อายุยังน้อย เขาสามารถเล่นได้ทั้ง 2 ข้าง และก็ยังสามารถเล่นได้ทั้งกองหน้า ปีกซ้าย ปีกขวาหรือแม้แต่กองกลาง” เฟอร์กี้กล่าวเพิ่มเติม

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง 25 นัดและทำได้ 3 ประตู โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมดีใจมากที่ได้เซ็นสัญญากับทีมที่ดีที่สุดในโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และผมก็ภูมิใจมากที่เป็นนักเตะโปรตุเกสคนแรกของสโมสร”



โรนัลโด้ ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดแรก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยพบกับ โบลตัน และทีมสามารถเอาชนะมาได้ 4 - 0 โดยในครั้งนั้นเขาลงเล่นแทน นิคกี้ บัตต์ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมเขาสร้างความประทับใจกับแฟนๆ มากทีเดียว เมื่อเขาได้ลงสนามเป็นส่วนช่วยให้ทีมทำประตูเพิ่มได้อีก 3 ประตู ในช่วงแรกของการย้ายมาเล่นในอังกฤษ เขาต้องใช้เวลาปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษ มากพอสมควรทำให้โชว์ฟอร์มได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งเล่นได้ดีขึ้น ซึ่งเครื่องหมายการค้าของเขา คือ การลากเลื้อย ด้วยความสามารถนี้เองช่วยให้เขาติดทีมชาติชุดลุยศึกยูโร 2004 ถึงแม้เขาจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองของทีมชาติ แต่ 1 ประตูที่เขาทำรวมทั้งการจ่ายให้เพื่อนทำประตูใน 2 เกมแรกที่พบกับ กรีซ และ รัสเซีย ทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกแรกที่จะลงเล่นให้กับทีม อีกทั้งเขายังสามารถทำประตูให้กับทีมในรอบ รองชนะเลิศ ที่พบกับ ฮอลแลนด์ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อทีมต้องพ่ายให้กับ กรีซ ในรอบชิงชนะเลิศ

นอกจาก เวย์น รูนี่ย์ แล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากในศึกยูโร 2004 และการเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาพัฒนาได้เร็วขึ้นมากเลยทีเดียว

สิ่งที่โรนัลโด้ โปรดปราน

หนังเรื่องโปรด เดอะ ร็อค และแมน ออน ไฟร์

พิซซ่าหน้าโปรด พิซซ่าหน้าเห็ด

ดาราคนโปรด เดนเซล วอชิงตัน

นักฟุตบอลคนโปรด มาราโดน่า

สถานที่ที่ชอบที่สุดที่เคยไปเที่ยว มาเดร่า

สถานที่อยากไปเที่ยวที่สุด บราซิล

เกมคอมพิวเตอร์สุดโปรด ฟีฟ่า สตรีท 2

เครื่องดื่มที่โปรดปราน น้ำแอปเปิ้ล

ที่ใส่ดินสอ...
พวกเราสามารถนำวัสดุเหลือใช้มาทำสิ่งที่มีประโยชน์ได้ เช่นที่ใส่ดินสอทั้งเก๋ใก๋ทั้งสวยงามสวยงาม



อุปกรณ์


กล่องใบเล็ก ขวดน้ำพลาสติก ตัดปลายออก
กระดาษสี เศษผ้า ที่มี
รูปถ่าย
กระดาษแข็ง
กาว

วิธีทํา


เมื่อได้ขนาดกล่องที่ถูกใจนํากระดาษสี หรือเศษผ้ามาหุ้มให้สวยงาม
นํารูปที่เตรียมไว้มาประดับบนกล่องแล้วแต่จัดวาง  หรือ ทำเป็น pop-up ออกมาก็ได้
เสร็จแล้ว ที่ใส่ดินสอทําไม่ยาก วัสดุก็หาง่าย เเละสามารถอวดใครๆได้ เพราะเราทำเองเเละยังขายได้อีกต่างหากถ้าเรานำมาประดิษฐ์ให้สวยงามตามกระเเสความฮิตของสังคมสร้างรายได้ ได้มากที่เดียวเเละใครสนใจก็commentมานะครับ